วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น

/data/content/25193/cms/e_ajlnptuw2367.jpg

          วัยรุ่นไทยสมัยนี้นิยม ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คเพื่อการติดต่อที่รวดเร็วและเนื่องจากความเร็วในการ สื่อสารรและความยากลำบากในการพิมพ์ตัวอักษรทำให้วัยรุ่นทำให้คำเหล่านั้น สั้นลงจนกลายเป็นภาษาวิบัติ
              
          ภาษาวิบัติ เป็นคำเรียกของการใช้ภาษาไทยที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่ตรงกับกับหลักภาษาในด้านการสะกดคำคำว่า 'ภาษาวิบัติ' ใช้เรียกรวมถึงการเขียนที่สะกดผิดบ่อย รวมถึงการใช้คำศัพท์ใหม่หรือคำศัพท์ที่สะกดแปลกไปจากเดิม คำว่า "วิบัติ" มาจากภาษาบาลี หมายถึง พินาศฉิบหาย หรือความเคลื่อนทำให้เสียหาย
          ในประเทศไทย มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาเด็กไทยขาดการศึกษารวมถึงปัญหาภาษาวิบัติทำให้ เด็กไทย ไม่สามารถใช้ภาษาไทยได้มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ในขณะเดียวกันได้มีการใช้คำว่าภาษาอุบัติแทนที่ภาษาวิบัติที่มีความหมายใน เชิงลบ โดยภาษาอุบัติหมายถึงภาษาที่เกิดขึ้นมาใหม่ ตอบสนองวัฒนธรรมย่อย เช่นเดียวกับภาษาเฉพาะวงการที่เป็นศัพท์สแลง
          ทั้งนี้ การเปิดใช้พจนานุกรมเพื่อค้นหาคำที่ควรใช้ให้ถูกต้องอาจเป็นทางเลือกที่ ดี[ต้องการอ้างอิง] ทางบัณฑิตยสถานได้กำหนดคำที่ใช้อย่างเป็นทางการหรืออยู่ในรูปแบบมาตรฐาน หากใช้ผิดอาจกลายเป็นคำวิบัติได้[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งคำวิบัติไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงของภาษาแต่อย่างใด[ต้องการอ้างอิง] เป็นเพียงการใช้ภาษาให้แตกต่างจากปกติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรืออาจใช้จากรุ่นสู่รุ่นไปจนกว่าคำวิบัตินั้นจะหายไปจากสังคมนั้น ๆ
          นิธิ เอียวศรีวงศ์ ว่า ภาษาวิบัติเป็นการเปลี่ยนแปลงของภาษาที่ผู้ใหญ่ในสังคมไม่ชอบ แม้ภาษาจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ผู้ใหญ่ไม่ชอบให้ภาษาเปลี่ยน การให้เหตุผลว่าภาษาไทยไม่ควรเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นภาษาของชาติที่มีความศักดิ์สิทธิ์ นิธิเห็นว่าเป็นเหตุผลแบบไสยศาสตร์ ไม่ค่อยน่าฟัง นิธิยังเห็นว่า ปัญหาของภาษาไทยในปัจจุบันคือ การใช้ภาษาไม่มีประสิทธิภาพ เช่น ไวยากรณ์ การใช้ศัพท์หรือการเรียบเรียง เป็นต้น และการไม่ศึกษาภาษาที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เองที่จะเป็นเหตุให้เกิด "ภาษาวิบัติ"



            เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ช่วงที่มีผู้สร้างภาพยนตร์ไปตั้งเป็นชื่อ หอแต๋วแตกแหวกชิมิ กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตประเภทวรรณศิลป์ สาขาวิชาภาษาไทย ระบุ คำว่า "ชิมิ" หากเป็นการใช้ภายในกลุ่มก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นการล้อกันเล่นซึ่งเป็นปกติของภาษา และจะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่การนำไม่ใช้เชิงสาธารณะดังที่ไปตั้งเป็นชื่อภาพยนตร์ ถือว่าไม่เหมาะสมนัก เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 กนกวลี ชูชัยยะ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า สถานการณ์ภาษาไทยในปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นวิกฤต และวัยรุ่นใช้ภาษาแช็ตเฉพาะบนอินเทอร์เน็ต และสื่อสารภายในวัยรุ่นเท่านั้น ยังไม่พบนำมาใช้ในการเขียนหรือการทำงานแต่อย่างใด

           ลักษณะและตัวอย่าง
คำสะกดผิดได้ง่าย เป็นรูปแบบของคำที่มีการสะกดผิด ซึ่งเกิดจากคำที่มีการผันอักษรและเสียงไม่ตรงกับรูปวรรณยุกต์
•             สนุ๊กเกอร์ (สนุกเกอร์)
•             โน๊ต (โน้ต)
คำที่สะกดผิดเพื่อให้แปลกตา
•             หน่องเตย (ใบเตย อาร์ สยาม)
•             นู๋ (หนู)
•             ชะมะ,ชิมิ (ใช่ไหม)
•             ช่ะ (ใช่ปะ, ใช่เปล่า, ใช่หรือเปล่า ตามลำดับ)
•             มว๊ากกกก (มาก)
•             ป่าว , ป่ะ, ปล่าว (เปล่า)
•             คัย,ไค,ครัย (ใคร)
•             เตง,ตะเอง (ตัวเอง)
•             เก๊า, เก๊าท์, (เขา)
•             เทอ,เทอร์ (เธอ)
•             ชั้ล , ช้าน (ฉัน)
•             ค้ะ , คร๊ , คร้ะ , ค่า (ค่ะ)
•             คร้าบ , คับ , คัฟ , คร๊าฟ (ครับ)
•             บร๊ะ (พระ)
•             เกรีeu (เกรียน)
•             uou (นอน)
•             Inw (เทพ)
•             วาน (วัน)
•             จิง (จริง)
•             ll"ll ""ll ll"ll (กาก)
•             กำ (กรรม)
คำที่สะกดผิดเพื่อแสดงอารมณ์
•             เป็นอะไร → เปงราย, เปนรัย, เปงรัย
•             ทำไม → ทามมาย, ทามมัย
•             จังเลย → จังรุย, จังเยย, จุงเบย
•             บอกตรง ๆ → บ่องตง
•             นิดนึง → นิสนึง, นิสนุง
•             คือแบบ → คีบับ, เคบับ
•             น่ารำคาญ → น่ามคาน
•             น่ารักอะ → น่าร๊อคอ้า
•             จริง ๆ → จีจี,จิงๆ
•             สุด ๆ → ฝุด ๆ
•             ไม่รู้ → มะรุ
•             อะไรหรือ → ไรเหรอ, ไรหรา, ไรเหลอ, ไรหรอ, อาไยหยอ
คำเลียนเสียง โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มทัณฑฆาต หรือซ้ำตัวอักษร
•             อ๊าย → แอร๊ยย, อร๊ายยย, อั้ยยะ
•             กรี๊ด → กี๊สส
•             โฮก → โฮกกก
•             โอ้ → โอ้วส์
•             มัน → มันส์

          ภาษา เหล่านี้เป็นภาษาที่วัยรุ่นทำให้เปลี่ยนแปลงมาเรื่อยจนอาจจะทำให้ไม่มีเค้า โครงเดิมของภาษาไทยอีกต่อไป ฉะนั้นแล้ววัยรุ่นไทยควรช่วยกันถนอมและรักษาภาษาไทยเอาไว้ให้เหมือนอย่างที่ มันเป็นมาตลอด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น